Category ข่าวฟุตบอล

ทีมญี่ปุ่นคืนโอกาสในการรุกและอัตราการครอบครองได้มากหลังจากเปลี่ยนข้าง แต่กาตาร์ยังมีโอกาสที่ดีในการทำประตู ในนาที 56 Abdulaziz Hatem ทะลุแนวรับของทีมญี่ปุ่น และได้โอกาสยิงหน้าประตูทีมญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามเขายิงบอลข้ามคานประตูโดยไม่มีใครสกัด ในนาทีที่ 69 ทีมญี่ปุ่นบุกเข้าไปในแนวป้องกันกาตาร์ได้ในที่สุด จากการส่งบอลของโอซามุยูยะ จังหวะการยิงของ
Takumi Minano ที่ยิงเหนือหัวซาอัดอัลชีบ ผู้รักษาประตูกาตาร์อย่างชาญฉลาด ซึ่งเป็นประตูทำคะแนนให้ญี่ปุ่นเป็น 1: 2 ประตู
และนี่เป็นประตูแรกและประตูเดียวของมินาโนะทาคุมิในฤดูกาลนี้และยังเป็นประตูเดียวที่กาตาร์ยอมรับในฤดูกาลนี้ ญี่ปุ่น
ไม่สามารถทำประตูตามทันได้ แถมโยชิดะยังทำแฮนด์บอลในเขตโทษทำให้กาตาร์ได้ระยะ 12 หลา ในนาทีที่ 82 Akram Afif ยิงได้ 12 หลาเพื่อเปิดสกอร์ให้กาตาร์ ในท้ายที่สุดกาตาร์เอาชนะญี่ปุ่น 3: 1 และคว้าแชมป์เอเชียนคัพได้เป็นครั้งแรกเนื่องจากถูกปฏิเสธสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลอินเตอร์คอนติเนนตัลปี 2021 เมื่อ 4 ปีก่อนจึงจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะแชมป์เอเชีย ในทางตรงกันข้ามญี่ปุ่นไม่สามารถอ้างสิทธิ์ได้เป็นครั้งแรกในถ้วยเอเชียสองสมัยติดต่อกันหลังจากคว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 1992

หลังเอเชียนคัพ: ญี่ปุ่นจะเติบโตไปอีกขั้นได้อย่างไร
วงการฟุตบอลญี่ปุ่นผวา
ในศึกเอเชียนคัพรอบชิงชนะวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ญี่ปุ่นมั่นใจเต็มร้อยกับการเผชิญหน้ากับกาตาร์ประเทศตะวันออกกลางในยูเออี ฉันคิดว่านี่เป็นชัยชนะของญี่ปุ่นแน่นอน แต่ทว่าญี่ปุ่นโดนกดดันตั้งแต่เริ่มเกม ในนาทีที่12กาตาร์ยิงประตูขึ้นนำญี่ปุ่น 1 – 0 ต่อมา
ได้ยิงลูกที่สองเข้าในนาทีที่ 27 สกอร์ 2-0 ครึ่งหลังในนาทีที่ 69 ญี่ปุ่นตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-1 จบเกมญี่ปุ่นพ่ายให้กับกาตาร์อย่าง
น่าเสียดาย ทำให้กาตาร์สามารถคว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา

เดิมทีเป็นเกมที่มั่นใจของญี่ปุ่น แต่กลับกลายเป็นญี่ปุ่นที่เป็นฝ่ายแพ้เอง เลยทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วญี่ปุ่น ประการแรกคือญี่ปุ่นไม่รู้จักกาตาร์มากพอ แต่ตรงกันข้ามกาตาร์รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น ประการที่สองคือขาดนักเตะตัวหลักอย่าง ชินจิ คางาวะและ เกน โชจิ จึงทำให้ทีมแพ้อย่างไม่น่าแพ้

แต่โชคดีที่ หลังจากหัวหน้าโค้ชคนใหม่โมริโฮอิจิเข้ารับตำแหน่ง ทีมญี่ปุ่นก็ใช้ผู้เล่นตัวจริงนี้เพื่อชนะการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ พวกเขายังเก็บชัยชนะ 7 นัดก่อนการแข่งขันเอเชียนคัพกับกาตาร์ที่เรียกว่า “Moribo Unbeaten” ” แม้ว่าเกมนัดสุดท้ายจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผู้เล่นตัวจริงรายนี้ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นได้รับโชคมากมายรวมถึงประสบการณ์ในเกมระดับนานาชาติที่เชื่อมโยงกับโอลิมปิกโตเกียวปี 2020 และฟุตบอลโลกปี 2022 ที่กาตาร์

กาตาร์ที่ได้ผ่านเข้ารอบ Top 4 ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าพวกเขาเหนือกว่าคู่ต่อสู้ เดิมกาตาร์ให้โอกาสคู่ต่อสู้ในการตอบโต้เนื่องจากมีการป้องกันผิดพลาด แต่พวกเขาสามารถถล่มและทำการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ Boualem Khoukhi สร้างสถิติให้กาตาร์ในนาทีที่ 22 และในนาทีที่ 37 Almoez Ali สามารถทะลุผ่านแนวรับของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ด้วยความเร็ว ทางด้านซ้ายแม้จะเผชิญหน้ากับผู้เล่นฝ่ายป้องกัน 3 คน เขาก็สามารถส่งบอลเข้าไปในตาข่ายนอกเขตโทษได้ โดย Almoez Ali ยิงประตูที่ 8 ของฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถิติการยิงประตูมากที่สุดโดย Ali Daei กองหน้าชาวอิหร่านในการแข่งขัน อย่างไรก็ตามสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นทีมที่ทำคะแนนได้สูงที่สุด ขึ้นสู่สี่อันดับแรกในสองเกมติดต่อกัน แน่นอนว่ายังมีโอกาสทำประตู แต่ทั้ง Ali Mabkhout และ Ahmed Khalil ไม่สามารถผ่านการป้องกันประตูของ Saad Al Sheeb ผู้รักษาประตูกาตาร์ได้เลย ฮัสซันอัล – เฮย์ดอส กัปตันกาตาร์บุกทะลวงแนวรับของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และยิงประตูที่สามจากการยิงครั้งเดียวในนาทีที่ 80 ซึ่งสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไป ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ Ismail Ahmed กองหลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จงใจศอกคู่แข่งและถูกกรรมการไล่ออกจากสนามด้วยใบแดง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งตามหลังอยู่ 3 ประตู ต้องเผชิญหน้ากัน 10 คน จึงส่งผลให้มีช่องว่างในสนามมากขึ้น ทำให้ฮามิดอิสมาอิลทีมกาตาร์ ยิงประตูที่ 4 ก่อนจบสนาม ด้วยเหตุนี้กาตาร์จึงเอาชนะยูเออีและเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอเชียนคัพเป็นครั้งแรก และก้าวไปสู่หน้าใหม่ในประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง

อันดับต้น ๆ ของเอเชีย
“ม้ามืด” กาตาร์ชนะครั้งแรกญี่ปุ่นพลาดชิงบัลลังก์

นี่เป็นครั้งที่ 5 ที่ทีมญี่ปุ่นผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอเชียนคัพ พวกเขาสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในปี 1992, 2000, 2004 และ 2011 และพวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้และเป็นแชมป์เอเชียได้ ในทางตรงกันข้ามกาตาร์เคยผ่านเข้ารอบในปี 2000 และ 2011 และตกรอบก่อนรองชนะเลิศ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ที่กาตาร์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ดังนั้นตารางสถิติของญี่ปุ่นจึงดีกว่ากาตาร์มาก แต่เมื่อพูดรูปเกมของทีมในรายการนี้กาตาร์ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นและกาตาร์ต่างก็ชนะมา 6 เกมเท่ากัน แต่กาตาร์ยิงได้ 16 ประตูและรักษาสถิติโดยการไม่เสียประตู ในทางตรงกันข้ามญี่ปุ่นมี 5 ประตูน้อยกว่ากาตาร์ และพวกเขายังเสียประตูให้กับ
เติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถาน

ผลงานของกาตาร์สามารถปรับปรุงได้อย่างก้าวกระโดด ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขาหลีกเลี่ยงการเป็นเจ้าภาพที่อ่อนแอและมีผลงานแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ดังนั้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขามีความกระตือรือร้นอย่างมากในการสรรหานักเตะเยาวชนที่มีศักยภาพในการเล่นฟุตบอลจากประเทศอื่น ๆ จากประเทศพื้นหลังมุสลิม เช่นอิรัก แอลจีเรีย ซูดาน และตูนิเซีย ประเทศนี้ได้คัดเลือกผู้เล่นอายุน้อยที่มีศักยภาพทางฟุตบอล นำพวกเขาไปที่กาตาร์ปลูกฝังพวกเขาและล่อให้พวกเขาโอนสัญชาติ ขณะเดียวกันยังล่อซื้อผู้เล่นต่างชาติที่เล่นในลีกกาตาร์มาร่วมทีมชาติกาตาร์ เช่น Ro-Ro นักเตะชาวโปรตุเกสที่รับหน้าที่เป็นแบ็คขวาตัวหลัก นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมาพวกเขาได้เปิดโรงเรียนฟุตบอลระดับโลก Aspire Academy ซึ่งไม่เพียงแต่บ่มเพาะความสามารถเยาวชนจำนวนมากในกาตาร์ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมุสลิมเข้าสู่เวทีระดับโลกอีกด้วย Moussa Dembele
อดีตนานาชาติเบลเยียมที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็มาจากสถาบันการศึกษานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถาบันนี้มีความสามารถในการสร้างนักเตะหน้าใหม่ได้มาก

การคัดเลือกทหารสัญชาติกาตาร์จำนวนหนึ่งเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ทำให้ผลงานของพวกเขาก้าวกระโดดอย่างมาก Almoez Ali ชาวซูดาน และ Bassam AlRawi ชาวอิรัก ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตามสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กาตาร์ในรอบก่อนรองชนะเลิศได้พ่ายแพ้ในสนามและยังเป็นศัตรูทางการเมืองกับกาตาร์ด้วย ดังนั้นจึงยื่นขอให้สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียยกเลิกคุณสมบัติของกาตาร์ก่อนรอบชิงชนะเลิศ เนื่องจาก Almoez Ali และ Bassam Al Rawi ไม่ได้อาศัยอยู่ในกาตาร์
มานานกว่า 5 ปีแล้วเมื่ออายุเกิน 18 ปีนี่เป็นการละเมิดกฎการโอนสัญชาติและเขาไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ แต่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียอยู่ในรอบชิงชนะเลิศ การประกาศปฏิเสธใบสมัครของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันก่อนทำให้ละครทางการเมืองยุติลงก่อนเริ่มรอบชิงชนะเลิศเพื่อให้กิจกรรมดำเนินไปตามกำหนด

ก่อนเริ่มเกม ทีมญี่ปุ่นที่มองโลกายนอกในแง่ดีเล็กน้อย ทำให้เอนโดพลาดในเกมนี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ชิโอทานิจอมเก๋าจากการเลือกตั้งเป็นกองกลางตัวรับ Shiotani ทำได้ดีในการแข่งขันนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถหยุดการโจมตีของกาตาร์ได้ กาตาร์ทำประตูขึ้นนำไปแล้วในนาทีที่ 12 อัลโมเอซอาลีที่หันหลังให้ประตูและภายใต้แรงกดดันของอาซายะโยชิดะกัปตันทีมชาวญี่ปุ่น
เลี้ยงบอลด้วยตัวเองทำประตูโดยการตีลังกาเข้าไปอย่างสวยงาม ผ่านทิศทางหักมุมล่างซ้ายของตาข่ายของผู้รักษาประตู และ Almoez Ali ยังทำลายสถิติการยิงประตูมากที่สุดในรอบชิงชนะเลิศเอเชียนคัพของ Ali Daei สตาร์ชาวอิหร่าน ด้วยประตูนี้กลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ด้วย 9 ประตู ในนาทีที่ 27 Abdulaziz Hatem ทำประตูนอกเขตโทษ ดึงคะแนนขึ้นเป็น 2-0 ทำให้ทีมญี่ปุ่นทำอะไรไม่ถูกจนจบครึ่งแรก

จีนด้อยกว่าอิหร่านอยู่แล้วในด้านกำลังรบ แต่ในเกมนี้กองหลังยังทำผิดพลาดร้ายแรง จนนำทีมไปสู่ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่
อย่างแรกคือ กองหลังที่มีประสบการณ์มากที่สุดในทีมจีนอย่าง Feng Xiaoting ทำพลาดในช่วง 18 นาทีแรก โดยการควบคุมบอลจากเส้นหลังและถูก Sardar Azmoun คว้าบอลได้แล้วจ่ายบอลไปที่ Mehdi Taremi เพื่อเริ่มการบันทึก
Azmoun ยังคว้าโอกาสเดียวที่เกิดจากการที่ Liu Yiming และแย่งบอลได้ ซึ่งในนาทีที่ 31 ทำประตูให้ฝั่งอิหร่านอย่างสวยงาม ในช่วงทดเวลาเจ็บก่อนจบสนาม Shi Ke กองหลังตัวกลางชาวจีนอีกคนทำพลาดอีกครั้งในแดนหลังทำให้ผู้เล่นของอิหร่านอย่าง
Karim Andalifao คว้าบอลและโต้กลับ คว้าโอกาสยิงประตูที่ ทำให้ในที่สุดอิหร่านก็ชนะจีนด้วย3-0 ประตูและเป็นครั้งแรกอิหร่านขึ้นสู่อันดับ 4 ของเอเชียนคัพนับตั้งแต่ปี 2004

เกาหลีใต้ 0: 1 กาตาร์
เกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศมองโลกในแง่ดี เป็นเอกฉันท์ก่อนเกมก็เป็นฝ่ายริเริ่มในเกมนี้เช่นกัน แต่เมื่อต้องเผชิญกับการป้องกันที่แน่นหนาของกาตาร์การรุกของเกาหลีใต้ยังคงมีความผิดพลาดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยิงระยะไกลของ Huang Infan, หรือจะเป็นตัวสำรองของ Lee Ching-yong, Kim Jin-soo และการยิงลูกโทษที่ไม่สามารถคุกคาม Saad AI Sheeb ผู้รักษาประตูของกาตาร์ได้ ในทางกลับกันกาตาร์ยังสามารถจับการรุกของเกาหลีใต้ได้ได้เป็นระยะ ๆ ในนาทีที่ 78 อับดุลลาซิซฮาเทม ทำคะแนนให้กับทีมการ์ต้า โดยการยิงประตูนอกเขตโทษใส่ Kim Seung-kui ผู้รักษาประตูชาวเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ต้องการโต้กลับเป็นอย่างยิ่ง ในอีกสองนาทีต่อมา เกาหลีใต้ได้ทำทำประตูโดย Huang Yizhu แต่ผู้ตัดสินตัดสินล้ำหน้าหลังจากดูวิดีโอ VAR ดังนั้นประตูจึงไม่ถูกต้อง สุดท้ายแล้วเกาหลีใต้ตีเสมอไม่สำเร็จ และในที่สุดกาตาร์ก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกในรอบรองชนะเลิศเอเชียนคัพตรงกันข้ามทีมผู้ใหญ่ของเกาหลีล้มเหลวในการทำลายฉากที่น่าอับอายของเอเชียนคัพในรอบ 59 ปีโดยไม่มีแชมป์

อิหร่าน 0: 3 ญี่ปุ่น
อิหร่านและญี่ปุ่นเป็นทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองทีมจึงพบกันในรอบก่อนรองชนะเลิศและนอกจากนี้ทีมที่แข็งแกร่งอย่างเช่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้และซาอุดิอาระเบียได้ตกรอบไปแล้ว ทำให้เกมนี้ถือได้ว่าเป็นสงครามชั้นนอก ญี่ปุ่นอยู่ในรอบ 16 ทีมต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่แข็งแกร่งอย่างซาอุดีอาระเบีย ญี่ปุ่นเลือกใช้วิธีการรุกและสร้างเกมรับได้อย่างน่าประหลาดใจ แต่ในเกมนี้เนื่องจากความกล้าหาญทำให้เขากลับมายืนในตำแหน่งกองหน้าได้ในการคัดเลือกหลัก ดังนั้นการเล่นยังคงดำเนินต่อไป มีการรุกที่นาทีที่ 13 นากาโตโมะจ่ายบอลจากเส้นข้างซ้ายและทาคุรุมินาโนะอยู่หน้าประตูเตรียมรับการยิง
แต่ได้รับการแก้ไขโดยโฮสเซนคานานิซาเดแกนกองหลังอิหร่าน เจ็ดนาทีต่อมาทีมญี่ปุ่นยังมีโอกาสรุก Tang Anlu ได้ยิงจากนอกเขตโทษ แต่ยิงไปติดของฝ่ายตรงข้ามบอลหลุดออกนอกกรอบไปจากประตู อิหร่านซึ่งชนะห้าเกมโดยไม่เสียประตูก็มีโอกาสทำประตูเช่นกัน Sardar Azmocn ทะลุแนวรับของญี่ปุ่นและยิงจากด้านซ้าย แต่อย่างไรก็ตาม Shuichi Kwonta ผู้รักษาประตูชาวญี่ปุ่นสกัดบอลไว้ได้ ในครึ่งแรกทั้งสองฝ่ายเสมอกันด้วย 0: 0

ในครึ่งหลัง ในที่สุดญี่ปุ่นก็เห็นจุดอ่อนในการป้องกันของอิหร่าน Takumi Minano ล้มลงเมื่อชนกับคู่ต่อสู้ของเขาในเขตโทษ นักเตะอิหร่านหลายคนรีบไปหาผู้ตัดสินทันทีเพื่อฟ้องว่า Takumi Minano เจตนาพุ่งล้ม อย่างไรก็ตามผู้ตัดสินส่งสัญญาณให้เกมดำเนินต่อไป ในขณะที่นักเตะอิหร่านกำลังพยายามฟ้องเรื่องการพุ่งล้มของ Takushi Minano อยู่นั้น Takushi Minano รีบตามเก็บบอลจากเส้นหลังแล้วเปิดบอลมาให้ Daji Yongye ขึ้นโขกเน้นๆเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย อิหร่านเสียบอลแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ ต่อมานาทีที่ 61 นักเตะอิหร่านทำแฮนด์บอลในเขตโทษ หลังจากที่ผู้ตัดสินได้ดูวิดีโอ VAR แล้ว ตัดสินให้เป็นจุดโทษ แน่นอนว่าญี่ปุ่นไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปอย่างแน่นอน ซัดเต็มข้อญี่ปุ่นขึ้นนำเป็น 2 – 0 ต่อมาช่วงทดเวลาบาดเจ็บญี่ปุ่นยิงประตูที่สามตอกฝาโลงอิหร่าน จบเกมญปี่ปุ่นเอาชนะอิหร่านไปได้ 3 – 0 ชัยชนะเกมนี้ ทำให้ ญี่ปุ่น ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไปรอพบผู้ชนะระหว่าง กาตาร์ หรือ ยูเออี เจ้าภาพ

ประเทศเจ้าภาพอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งมีเป้าหมายในรอบ 16 ทีมกับคีร์กีซสถาน ที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรกในรอบชิงชนะเลิศ Khamis Esmaeel เปิดการยิงด้วยส่วนหัวให้กับเจ้าภาพในนาทีที่ 14 และ Mirlan Murzaev เสมอกับคีร์กีซสถานหลังจากผ่านไป 12 นาที Ali Mabkhout ทำแต้มให้ทีมเจ้าบ้านอีกครั้งในครึ่งหลัง ก่อนจะจบเกมส์คีร์กีซสถาน Tursunali Rustamov ตีเสมออีกครั้งและเกมส์ก็เข้าสู่ช่วงต่อเวลา อาเหม็ดคาลิลซึ่งเล่นในตำแหน่งผู้เล่นสำรองทำประตูให้ยูเออีในช่วงต่อเวลา 12 หลา ครั้งนี้คีร์กีซสถานล้มเหลวในการชนะคะแนนในครั้งนี้และสหรัฐฯก็ก้าวไปสู่ ​​8 อันดับแรกได้อย่างน่าตื่นเต้น

หมดแล้วเกาหลีใต้และออสเตรเลีย
คำสาปแชมเปียนชิพออสเตรเลียพลาดโอกาสป้องกันอันดับสี่ของอิหร่าน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1: 0 ออสเตรเลีย

เวียดนาม 0: 1 ญี่ปุ่น
เอเชียนคัพเริ่มใช้เทคโนโลยี VAR เพื่อเข้ามาช่วยในการตัดสิน โดยสามารถดูการแข่งย้อนหลังจากเจ้า VAR นี้ ด้วยเหตุนี้ VAR จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาช่วยการตัดสินให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ในนาทีที่ 23 ญี่ปุ่นได้เตะมุมโดย เก็งกิ ฮารากุชิ โยนบอลให้ โยชิดะ โขกเข้าประตูไป แต่สกอร์ยังอยู่ที่ 0 – 0 เพราะหลังจากที่กรรมการได้ดู VAR แล้ว เห็นว่า โยชิดะ ใช้แขนของเขาตีบอลเข้าไปในตาข่ายประตู จึงทำให้ลูกนี้เป็นโมฆะทันที ญี่ปุ่นยังคงกดดันเวียดนามอย่างดุเดือด ทั้ง ทาคูมิมินาโนะ หรือ ฟูอันเจียนหยาง ก็ไม่สามารถยิงบอลฝ่านิ้วทั้งสิบของ เติ้งเหวินหลิน ผู้รักษาประตูชาวเวียดนามได้ ในช่วงต้นเกมของครึ่งหลัง ในนาทีที่ 57 ริทสึ โดอัน ถูกเวียดนามเสียบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินใช้ VAR อีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเป็นการทำฟาวล์จริงหรือไม่ ท้ายที่สุดกรรมการตัดสินว่าเป็นจุดโทษ โดยมี ริทสึ โดอัน รับหน้าที่ในการสังหารจุดโทษครั้งนี้ สกอร์ญี่ปุ่นขึ้นนำ 1 – 0 เหงียนเฟงหง ตัวแบกกองกลางชาวเวียดนาม พยายามเร่งทำประตูตีเสมอ แต่ก็ไม่สามารถฝ่าทัพซามูไรไปได้ ในท้ายที่สุดญี่ปุ่นเฉือนชนะเวียดนามไปได้ 1-0

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1: 0 ออสเตรเลีย
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เริ่มดีขึ้นหลังจากเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดนี้เจ้าภาพต้องเจอกับแชมป์เก่าอย่างออสเตรเลีย แม้ว่าความหวังในการชนะศึกครั้งนี้ของพวกเขาจะมีไม่มาก แต่พวกเขาก็สู้อย่างสุดความสามารถ พวกเขาบุกอย่างหนักในครึ่งแรก
Ismail AI Hammadi และ Ali Mabkhout ก็ล้มเหลวในการพังประตูของออสเตรเลียในครึ่งแรก แต่สุดท้ายในนาทีที่ 68 ความผิดพลาดของ Milos Degenek กองหลังชาวออสเตรเลีย จึงทำให้ Mabkhout ลงโทษออสเตรเลียโดยยิงเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ออสเตรเลียพยายามสวนกลับ Rhyan Grant พยายามยิงไกลจากนอกเขตโทษแต่ทำได้ไม่ดีนัก ทำให้บอลข้ามคานไป จบเกมผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา เจ้าภาพ UAE เอาชนะแชมป์เก่าไป 1-0

กาตาร์ 1: 0 อิรัก
กาตาร์และอิรักแข่งกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งสองทีมมีโอกาสทำประตูขึ้นนำ  แต่ในท้ายที่สุด บาซามไอ – รวี นักเตะทีมชาติกาตาร์สามารถทำประตูขึ้นนำให้ทีมได้ อิรักไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ จึงทำให้กาตาร์คว้าแชมป์เอเชียนคัพได้เป็นครั้งแรก

เกาหลีใต้ 2: 1 บาห์เรน
เกาหลีใต้พบกับบาห์เรน เกาหลีใต้คิดว่าน่าจะผ่านบาห์เรนไปได้อย่างง่ายดาย แต่ความเป็นจริงแล้วบาห์เรนไม่ได้หมูอย่างที่เกาหลีใต้หวัง อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 42 เกาหลีใต้ขึ้นนำโดยการทำประตูของ Hwang Hee Chan จบครึ่งแรกทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ เริ่มการแข่งครึ่งหลัง  ในนาที 77 Mohamed Al Rornaz ทำประตูเสมอให้บาห์เรน หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมเสมอกันที่ 1 – 1 จึงต้องต่อเวลาพิเศษ เริ่มการแข่งขันในช่วงต่อเวลาพิเศษเป็นฝ่ายเกาหลีใต้ที่สามารถทำได้ดีกว่า ขึ้นนำเป็น 2 – 1 ในช่วงครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ จบเกมเกาหลีใต้สามารถเก็บชัยชนะนี้ไปได้

ไทย 1: 2 จีน
ในรอบ 16 ทีม ทีมไทยปะทะทีมจีน ซึ่งในเกมนี้ทีมไทยสามารถขึ้นนำได้ก่อนในนาทีที่ 31 โดย ศุภชัย ใจเด็ด เกมนำเดินต่อไปเข้าสู่ครึ่งหลัง จีนเกือบพังประตูไทยได้โดยลูกยิงของ ต้า เป่า แต่ศิวรักษ์ซุปเปอร์เซฟไว้ได้ ต่อมานาทีที่ 66  เจิ้งจื่อแย่งบอลได้ เปิดบอลจากข้างสนามให้กับ สือ จื้อ ขึ้นในระยะไม่กี่หลา ศิวรักษ์เซฟได้ แต่โดนซ้ำจนเป็นประตู ไทย 1 – 1 จีน หลังจากนั้น 3 นาที เฉลิมพงษ์ทำเข้าเสียบทำฟาวล์ เก้า หลิน ในเขตโทษ กรรมการเป่าฟาวล์เป็นจุดโทษทันที และแน่นอนว่าทีมจีนไม่พลาด สกอร์จีนขึ้นนำเป็น 2 – 1

ในช่วงมดเวลาบาดเจ็บ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้มีโอกาสซัดไกล แต่ผู้รักษาประตูของจีนก็เซฟไว้ได้ จีนสามารถเก็บชัยชนะไว้ได้ และสามารถลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ครั้งที่ 2  หลังจากปี 2004

อิหร่าน 2: 0 โอมาน
ทีมโอมานสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีในระดับหนึ่งของรอบแบ่งกลุ่ม การแข่งขันในรอบนี้โอมานมีโอกาสขึ้นนำก่อนโดยผู้เล่นอิหร่านทำฟาวล์ในเขตโทษ เป็นที่น่าเสียดายที่การยิงลูกโทษของ Ahmed Kano ถูก Alireza Beiranvand ผู้รักษาประตูชาวอิหร่านเซฟได้ อิหร่านซึ่งรอดการขึ้นนำของโอมานได้  หลังจากนั้น Alireza Jahanbakhsh และ Ashkan Dejagah ทีมอิหร่านทำคนละ 1 ประตู ขึ้นนำด้วยสกอร์ 2 – 0 ในครึ่งแรก ครึ่งสองไม่สามารถยิงประเพิ่มได้ทั้งสองทีม ทำให้อิหร่านชนะโอด้วยสกอร์ 2 – 0  จนทำให้อิหร่านสามารถคว้าอันดับที่ 8 ไว้อย่างง่ายดาย

ออสเตรเลีย 0: 0 อุซเบกิสถาน
(ดวลจุดโทษ ออสเตรเลีย 4-2 อุซเบกิสถาน)
รูปเกมของทั้งสองทีมสูสีกันมาก ผลัดกันรุกผลัดกันรับ แต่น่าเสียดายที่ทำประตูไม่ได้ในเวลา 90 นาที ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ ในช่วงต่อเวลาพิเศษนั้นทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่สามารถทำประตูกันได้ เสียงนกหวีดดังขึ้นหมดเวลาในการแข่งขัน เสอมกันที่ 0 – 0 จึงต้องดวลจุดโทษกัน  Ignatiy Nesterov ผู้รักษาประตูชาวอุซเบก สามารถเซฟลูกยิงของ Aziz Behich เอาไว้ได้  แต่ Matthew Ryan ผู้รักษาประตูชาวออสเตรเลียที่เล่นในพรีเมียร์ลีกนั้นเหนียวยิ่งกว่า เขาสามารถเซฟลูกยิงของผู้เล่น Uzbek ได้สองคน เป็นผลให้ Matthew Leckie ยิงในรอบที่5 ทำให้ออสเตรเลีย สามารถที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้

สำหรับอันดับที่สองของกลุ่มอุซเบกิสถานทีมเอเชียกลางซึ่งเป็นทีมเยือนปกติในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกเอเชียได้ลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในปีที่แล้วการแข่งขันกระชับมิตรแม้จะเอาชนะเกาหลีใต้ด้วย 4 ประตู อย่างไรก็ตามพวกเขาคว้าแชมป์เอเชียนคัพ U23 เมื่อปีที่แล้วดังนั้นพวกเขาจึงกลับมามีคุณสมบัติในฐานะทีมที่แข็งแกร่งในรอบชิงชนะเลิศเอเชียนคัพพวกเขาเอาชนะโอมานได้อย่างหวุดหวิดด้วยความสามารถในการต่อสู้ที่แน่นอนในนัดแรก 2: 1 คู่ต่อสู้ของพวกเขาในรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 11 คือเติร์กเมนิสถานพี่ชายของเอเชียกลางและผลที่ตามมาคือชัยชนะ 4-0 ภายใต้รูปแบบการเล่น ในรอบแบ่งกลุ่มที่สามอุซเบกิสถานเช่นญี่ปุ่นมีชัยชนะสองเกมและล้ำหน้าไปก่อนดังนั้นพวกเขาจึงหมุนเวียนในเกมนี้ด้วย Eldor Shomurodov หนึ่งในกองหน้าของพรีเมียร์ลีกรัสเซียเพียงไม่กี่คนที่ยังคงเป็นผู้เล่นเชิงบวกยิงประตูของญี่ปุ่นใน 40 นาทีและเปิดสถิติให้กับอุซเบกิสถานและยังเป็นประตูที่ 4 ของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นยิงสองประตูในครึ่งหลังทำให้อุซเบกิสถานพ่ายแพ้และก้าวขึ้นเป็นอันดับสองของกลุ่มเท่านั้นโดยเผชิญหน้ากับออสเตรเลียในรอบ 16 ทีม
ส่วนโอมานแม้ว่าจะไม่มี Ai-Habsi อดีตผู้รักษาประตูพรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังมีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง โอมานแพ้อุซเบกิสถานและญี่ปุ่นเพียงประตูเดียวในสองกลุ่มแรกในเกมที่สามพวกเขาเผชิญหน้ากับเติร์กเมนิสถานพวกเขาใช้โมฮัมเหม็ดอัล – มูซาลามีเพื่อทำประตูให้ทีม 3: 1 ในช่วงทดเวลาเจ็บ 3 นาที ในท้ายที่สุดโอมานคว้าอันดับ 3 ด้วยการชนะ 1 แพ้ 2 และ 3 คะแนนประตูของอัล – มูซาลามีทำให้ผลต่างประตูของโอมานเท่ากับ 0 ประตูและได้รับการยืนยันว่ามันกลายเป็นอันดับสามด้วยผลงานที่ดีที่สุดและขึ้นรถไฟรอบสุดท้ายของรอบ 16 ทีมสุดท้าย . อย่างไรก็ตามเติร์กเมนิสถานถูก จำกัด ด้วยความแข็งแกร่งและท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้ใน 3 เกมที่จะมาพร้อมกับที่นั่งสุดท้ายของกลุ่ม

เวียดนาม

ญี่ปุ่นเก็บชัยชนะจากซาอุดีอาระเบีย เวียดนามเข้าสู่รอบรองชนะเลิศอีกครั้งในรอบ 12 ปี
จอร์แดน 1: 1 เวียดนาม (เวียดนามชนะการดวลจุดโทษ 4 – 2 ) เอเชียนคัพรอบ 16 ทีม เวียดนามกลุ่มอันดับสี่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอันดับที่สาม Ruan Gongfeng ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็สามารถทำสกอร์ขึ้นนำจอร์แดนได้ แต่อย่างไรก็ตามจอร์แดนสามารถทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 39 โดย Baha Abdel-Rahman จากนั้นจบเกม 90 นาที ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้จึงต้องต่อเวลาพิเศษ 

เริ่มเกมช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมพยายามทำประตูเพิ่มแต่ก็ไม่สามารถพังประตูของอีกฝั่งได้ ทำให้กรรมการต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ในการดวลจุดโทษรอบนี้ เวียดนามเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า เก็บชัยชนะและเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ Asian Cup อีกครั้งหลังจากปี 2007

ญี่ปุ่น 1: 0 ซาอุดีอาระเบีย

การแข่งขันในรอบนี้มีผู้ชมมากที่สุดในรอบ 16 ทีม เนื่องจากญี่ปุ่นและซาอุดีอาระเบียคือคู่ชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว ญี่ปุ่นมาในแผนตั้งรับแล้วสวนเร็ว จึงทำให้ทีมซาอุดีอาระเบียเก็บอัตราการบอลได้เหนือกว่า ในขณะที่อัตราการครองบอลของญี่ปุ่นอยู่ที่ 24% เท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนนี้สามารถทำให้ญี่ปุ่นเก็บชัยชนะรอบนี้ไปได้ โดยได้ลูกโหม่งจากฟูอันเจี้ยนหยางกองหลังดาวรุ่งมาแรงของญี่ปุ่น จึงทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

ในรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองกับเลบานอนซาอุดิอารเบียทำประตูขึ้นนำโดยฟาฮัดอัล – มูวาลาดในเวลา 12 นาที Housain Ali- Mogahwi ทำประตูได้อีกครั้งในครึ่งหลังและในที่สุดก็นำคู่แข่ง 2: 0 ภายใต้การควบคุมของเกมโดยชนะทั้งสองเกม ล่วงหน้าก่อน
ส่วนที่นั่งรอบคัดเลือกอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันคาดว่ากาตาร์และเลบานอนจะแข่งขันกันก่อนเกม ทั้งสองทีมพบกันในรอบแรกของรอบแบ่งกลุ่มผลคือกาตาร์เปิดฉากโดยบาสซามอัลราวีในครึ่งหลัง 20 นาทีอัลโมเอซอาลีอายุเพียง 22 ปีทำประตูแรกในทัวร์นาเมนต์นี้และทำได้ 2: 0 เริ่มต้นได้ดี Almoez Ali ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมาก่อนเกมไม่สามารถหยุดการทำประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ได้ราวกับว่าเขาสาบานว่าจะทำลายสถิติการทำประตูของ Ali Daei กองหน้าในตำนานของอิหร่าน เขายิงได้ 4 ประตูในเวลา 51 นาทีในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองซึ่งเป็นสถิติของ Daei ที่ยิงได้ 4 ประตูในเกมเดียวกับเกาหลีใต้ในรอบก่อนรองชนะเลิศปี 1996 และยังช่วยให้กาตาร์เอาชนะเกาหลีเหนือได้ 6 ประตูโดยเล่นเหมือนกับซาอุดิอาระเบีย หลังจาก 2 เกมการโปรโมตจะได้รับการยืนยัน ในฉากที่สามกับซาอุดีอาระเบีย Almoez Ali ยังคงทำประตูและทำสถิติได้ 7 ประตูโดย Daei ผู้เล่นชาวเกาหลีใต้ Choi Sunho และ Naoyasu Kokura ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นในรอบแบ่งกลุ่ม Asian Cup กาตาร์เอาชนะซาอุดีอาระเบีย 2-0 ชนะ 3 เกมและเป็นทีมแรกในกลุ่มนี้ขณะที่ซาอุดิอาระเบียอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยการชนะ 2 และแพ้ 1 เลบานอนด้อยด้านขุมกำลังดังนั้นจึงต้องเจอกับทั้งกาตาร์และซาอุดิอาระเบียแม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะเกาหลีเหนือในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มล่าสุดและจบอันดับสามของกลุ่ม แต่พวกเขาก็ไม่ดีเท่าทีมอันดับสามในกลุ่ม D เนื่องจากคะแนนวินัยของพวกเขา สุดท้ายเวียดนามทำได้เพียงแค่หยุดในรอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่ม F {อันดับสุดท้าย: 1. ญี่ปุ่น, 2. อุซเบกิสถาน, 3. โอมาน, 4. เติร์กเมนิสถาน) ญี่ปุ่น
เกือบกำจัดเบลเยียมในฟุตบอลโลกเมื่อปีที่แล้ว แต่พ่ายแพ้เพราะขาดความแข็งแกร่งทางร่างกายและพลาดที่จะสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากการแข่งขันฟุตบอลโลกซามูไรสีน้ำเงินนำโดยแชมป์เอเชียนคัพ 1992 โมริโบ 1 ผู้เล่นต่างชาติเก่าเช่นมาโกโตะฮาเซเบะ, เคสุเกะฮอนดะและนัสสึงุคาวาชิมะถอนตัว เนื่องจากญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียวปี 2020 และรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 หลังการแข่งขันฟุตบอลโลกชินจิคากาวะและชินจิโอกาซากิทหารผ่านศึกที่เหลือก็ไม่ได้รับคัดเลือกแทนโดยใช้นากาจิมะโชยะ, มินาโนะทาคุมิ, โดอันริวและ Fuan Jianyang และคนรุ่นใหม่อื่น ๆ ร่วมกับรัฐมนตรีเก่าเช่น Osaki Yuya, Nagatomo Yuto และ Yoshida Asaya คว้าชัยชนะ 4 ครั้ง, 1 และไม่พ่ายแพ้แม้จะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นอุรุกวัยในการแข่งขันกระชับมิตร 5 นัด อย่างไรก็ตามข่าวที่ไม่เอื้ออำนวยยังคงแพร่กระจายออกไปก่อนเกมการโจมตีหลัก Nakajima Shoya, Asano Tomo กองหน้าตัวสำรองและกองกลางตัวรับ 2 คนทั้งหมดถอนตัวออกไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้ทีมญี่ปุ่นต้องปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรการรุก นอกจากนี้นักเตะญี่ปุ่นยังไม่คุ้นเคยกับอุณหภูมิที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียสในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คู่ต่อสู้ของญี่ปุ่นในรอบแบ่งกลุ่มไม่แข็งแกร่ง แต่ก็เล่นยากกว่าที่คิดไว้มาก ในนัดแรกเติร์กเมนิสถานที่พ่ายแพ้ให้กับทีมไต้หวันในรอบคัดเลือกทำให้เสียประตู I ก่อนโชคดีที่ Da Zhiyong ยังเล่นในระดับนักกีฬาบุนเดสลีกาในครึ่งหลังและยิงได้ 2 ประตูติดต่อกัน Don Anlu ผู้เล่นวัยโอลิมปิกของโตเกียวทำประตู I ได้ในเวลาต่อมา แต่จากนั้นญี่ปุ่น ในท้ายที่สุดญี่ปุ่นได้รับชัยชนะเพียงเล็กน้อยโดยหนึ่งประตู ในรอบแบ่งกลุ่มที่สองญี่ปุ่นเล่นกับโอมานซึ่งอ่อนแอกว่าตนและสามารถชนะได้เพียง 1 ประตูด้วยความแข็งแกร่ง 12 หลา แน่นอนสำหรับญี่ปุ่นชัยชนะเต็มรูปแบบใน 2 เกมและการเลื่อนชั้นในช่วงต้นก็เสร็จสิ้นภารกิจดังนั้นในรอบแบ่งกลุ่มที่สามเพื่อให้กำลังหลักได้พักผ่อนเราจึงจัดผู้เล่นตัวจริงตัวสำรองลงเล่นแทนโทชิฮิโระอาโอยามะตัวเก๋าและทีมชิโอยาจิโดยการเลือกตั้ง ด้วยผลงานที่โดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับสองครั้งในที่สุดเขาก็เอาชนะอุซเบกิสถานด้วยชัยชนะ 2: 1 และเป็นที่หนึ่งของกลุ่มด้วยชัยชนะสามเกม ‘นอกจากนี้เขายังสามารถหลีกเลี่ยงศัตรูตัวฉกาจในเอเชียเช่นเกาหลีใต้อิหร่านและออสเตรเลียในรอบน็อกเอาต์

คว้าแชมป์สตรีคได้อย่างง่ายดายด้วย 2: 0 และผ่านเข้ารอบก่อนใคร ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่สามทั้งศัตรูและของเราได้ตั๋วเข้าชมการแข่งขันสูงสุด 16 นัดแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเป็นประเทศศัตรูในประวัติศาสตร์การเมือง แต่คราวนี้ก็ค่อนข้างสงบในสนามฟุตบอลในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็จบลงโดยไม่มีสถิติของอิหร่านเทียบ ผลต่างประตูระหว่าง Jiadeli เป็นที่หนึ่งของกลุ่ม
หลังจากที่อิรักสร้างตำนานในการคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปี 2550 อดีตผู้เล่นตัวเก๋าได้ออกจากทัวร์นาเมนต์นี้ทั้งหมดและถูกแทนที่ด้วยสมาชิกกระดูกสันหลังของฟุตบอลเยาวชนโลก 2013 ที่นำโดยอาลีเอเดรียนผู้เล่นเซเรียอา Mohamad Ali และผู้เล่นดาวรุ่งคนอื่น ๆ จัดทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนี้ พวกเขาต่อสู้กับเวียดนามในเกมแรกโมฮานาดอาลีวัย 18 ปียิงประตูได้อีกครั้งในเกมที่สองด้วยประตูของบาชาร์เรซานและอลาอับบาสทำให้อิรักชนะเยเมน 3: 0 เช่นเดียวกับอิหร่าน ผ่านเข้ารอบในช่วงต้นของสองเกม สำหรับเวียดนามมีดาวรุ่งหน้าใหม่เช่นเหงียนกวงไห่, เหงียนกงเฟิงและเติ้งเหวินหลินผู้เล่นคนนี้อายุต่ำกว่า 30 ปีทั้งหมดกองทัพเยาวชนนำสองครั้งในการรบครั้งแรก แต่น่าเสียดายที่อิรักเสมอสองครั้งและอาลีอัดนานชนะในที่สุดก่อนเกม ตำนานแพ้ 3 คะแนนภายใต้สถานการณ์ที่โดดเด่น ในรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองเวียดนามเผชิญหน้ากับอิหร่านศัตรูที่แข็งแกร่งนั่นเป็นเพราะมันด้อยกว่าคู่แข่งด้วยเหตุนี้จึงยังทำประตูไม่ได้และใกล้จะออกจากเกม โชคดีที่ Ruan Guanghai ยิงประตูได้อย่างสวยงามและ Gui Yuhai ยิงไป 12 ประตูเวียดนามเอาชนะเยเมน 2-0 ประตูของ Ruan Guanghai ได้รับเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมแห่งปีในเวลาต่อมา เวียดนามจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะ 1 แพ้ 2 และผลต่าง 1 ประตูในแง่ของคะแนนประตูและความแตกต่างของประตูนั้นเหมือนกับเลบานอนอันดับที่สามของกลุ่มอีในที่สุดเวียดนามก็เอาชนะเลบานอนด้วยคะแนนวินัย 2 คะแนนจนได้ 16 อันดับสุดท้าย . สำหรับความพ่ายแพ้ 3 ครั้งของเยเมนและไม่มีเป้าหมายนอกเหนือจากการแสดงความยินดีกับความสามารถในการสร้างสถิติสำหรับการมีส่วนร่วมครั้งแรกในรอบชิงชนะเลิศฉันกลัวว่าจะไม่มีอะไรน่ากล่าวถึง 

กลุ่ม E (อันดับสุดท้าย: 1. กาตาร์, 2. ซาอุดีอาระเบีย, 3. เลบานอน, 4. เกาหลีเหนือ)
กลุ่มนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง 3 ทีมตะวันออกกลางและเกาหลีเหนืออย่างไรก็ตามในความเป็นจริงเกาหลีเหนือไม่ได้แข็งแกร่งเท่าในช่วงหลายปีก่อนแม้ว่าจะมี Han Guangcheng ก็ตาม ปาร์คกวงหลงและผู้เล่นอพยพเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าร่วมในดิวิชั่นสองของอิตาลีและซูเปอร์ลีกสวิสได้ความแข็งแกร่งโดยรวมนั้นยากที่จะเทียบเทียมกับมหาอำนาจตะวันตก เกาหลีเหนือเผชิญหน้ากับซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นทีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มนี้ในนัดแรกและเสีย 4 ประตูโดยไม่มีฟันเฟืองใด ๆ ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มสามวันต่อมาเกาหลีเหนือพ่ายแพ้ต่อการรุกอย่างดุเดือดของกาตาร์และในที่สุดก็กลืนไข่เปล่าไป 6 ฟองซึ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามไปข้างหน้า Almoez Ali ทำประตูได้ 4 ประตูในนัดเดียว ในรอบแบ่งกลุ่มสุดท้ายโอกาสในการเลื่อนชั้นนั้นค่อนข้างน้อยมากเกาหลีเหนือให้ปาร์คกวางยองทำสถิติใน 9 นาทีซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวของพวกเขาในรอบชิงชนะเลิศปีนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเกาหลีเหนือก็ไม่ยั่งยืนและเลบานอนยิงได้ 4 ประตูติดต่อกันและในที่สุดก็แพ้ 14 ครั้ง เกาหลีเหนือเสียไปเพียง 1 ประตู แต่เสียไป 14 ประตูจาก 3 เกมในปีนี้ถือเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดคะแนนรวมยังอยู่อันดับสุดท้ายใน 24 อันดับแรก ลีมยองกุ๊กผู้รักษาประตูจอมเก๋าที่จะปกป้องเกาหลีเหนือในทัวร์นาเมนต์นี้ยังเป็นผู้รักษาประตูตัวหลักในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ด้วยดังนั้นหากเขาแพ้เกมนี้และต้องกลับไปหาสื่อเขาอาจจะไม่สามารถกลับมาเล่นได้อีกดังนั้นข่าวลือดังกล่าวอาจทำให้กลัวได้ ควรหยุดแค่นั้น.
ซาอุดีอาระเบียดูเหมือนจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้บนกระดาษแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็สามารถเอาชนะอียิปต์ได้ซึ่งนำโดยโมฮาเหม็ดซาลาห์ผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกดังนั้น ได้เห็นโมเมนตัมของการฟื้นฟูแล้ว พวกเขาเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือในเกมแรก แต่พวกเขาเล่นได้ดีและชนะด้วย 4 ประตู